- หน้าแรก
- บทความ สาระ
- 7 เหตุผลที่ว่าทำไมการปั่นจักรยานดีกว่าการวิ่ง
7 เหตุผลที่ว่าทำไมการปั่นจักรยานดีกว่าการวิ่ง
มีผู้คนมากมายที่ชอบการวิ่งเพราะว่ามันใช้งบประมาณน้อยในการเริ่มต้น เผาผลาญแคลอรี่ได้ดี และยังสามารถเข้ากันได้ดีกับทุกสูตรการออกกำลังกายที่มี แต่ว่าถ้าถ้านำมาเปรียบเทียบกับกีฬาประเภทอื่น เราเชื่อว่าอย่างไรก็ตามการขี่จักรยานก็ดีกว่า (เราเชื่อว่าเราสามารถพิสูจน์ได้) ไปดูกันเถอะว่าทำไม
ได้ความแข็งแรง และสร้างความอดทน
จริงอยู่ถ้าเทียบกับต่อไมล์การวิ่งสามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่า แต่ว่าคนส่วนมากคงจะวิ่งได้จำนวนไมล์ไม่เท่าการขี่จักรยาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีรูปร่างผอมบางหรือว่าต้องการลดน้ำหนักนิดเดียว และการวิ่งยังเป็นการออกกำลังที่ต้องต้านแรงโน้มถ่วงด้วย เพราะในระหว่างวิ่งคุณต้องยกร่างการหรือน้ำหนักบางส่วนขึ้นจากพื้น เพื่อขับตัวเองไปข้างหน้า และเมื่อตอนลงมาที่พื้นก็ต้องรองรับน้ำหนักในส่วนนั้นอีก เหตุผลทั้งสองข้อนี้ทำให้การวิ่งในระยะทาง 5 ไมล์ นั้นยากกว่าการขี้จักยาน 2 ครั้ง หรือสาม หรือสี่ครั้ง ในระยะเวลานาน และถ้าหากวิ่งช้าลง น้ำหนักที่จะลดลงก็จะช้าตามไปด้วย แม้ว่าน้ำหนักส่วนเกินจะทำให้การขี่จักรยานขึ้นเขานั้นทำได้ยาก แต่ว่าบนพื้นเรียบแรงโน้มถ่วงก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่จะมาขัดขวางการขี่จักรยาน
ความเจ็บปวด
การวิ่งทำให้คุณบาดเจ็บได้มากกว่ากว่าการขี่จักรยาน แม้ว่าคุณจะเป็นผู้ที่บาดเจ็บได้ยากขนาดไหนก็ตาม ผลศึกษาเปรียบเทียบระหว่างนักปั่นและนักวิ่ง ที่ได้ถูกให้ทำการทดลองโดยการขี่จักรยาน และวิ่งวันละ 2.5 ชั่วโมงต่อวันเป็นเวลา 3 วัน และในช่วงเวลา 38 ชั่วโมงที่พักผลการศึกษาพบว่าการวิ่งนั้นส่งผลเสียมากกว่าการขี่จักรยาน โดยกล้ามเนื้อมีความเสียหายมากกว่า (อยู่ในช่วง 133% - 404% หรือมากกว่านั้น) ระดับการอักเสบมากกว่า (มากกว่า 256%) และปวดกล้ามเนื้อมากกว่า (มากกว่า 87%) เรารู้ว่าการวิ่งส่งผลให้ร่างกายมีความเครียดมากกว่า แต่ไม่เคยรู้ว่ามันทำให้กล้ามเนื้อมีความเสียหายและอักเสบมากขนาดไหน ซึ่งจากผลการศึกษาที่พบทำให้เราประหลาดใจมากเลยทีเดียว มีกล้ามเนื้อที่บาดเจ็บมากมายจากการวิ่งซึ่งบางทีมันอาจจะมากเกินกว่าที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะสามารถมาซ่อมแซมได้
ไปที่ไหนก็ได้
เราสามารถขี่จักรยานได้หลายชั่วโมง ซึ่งนั่นจะทำให้พื้นที่ที่คุณจะได้ขี่จักรยานไปพบเจอวิวทิวทัศน์ที่มหัศจรรย์นั้นมีมากขึ้นตามไปด้วย คุณจะไม่ค่อยเจอนักวิ่งมากนักที่ไปทัวร์ตามสถานที่ท่องเทียว หรือไปวิ่งที่ภูเขาสูงอย่างดอยอินทนนท์ แต่ว่าคุณจะพบนักปั่นมากมายที่เดินไปประเทศหรือทั่วโลก นอกจากนั้นคุณยังสามารถขนของใช้ที่จำเป็นไว้บนจักรยานได้ง่ายกว่าบนเท้าของคุณ และไม่ใช่เพียงแค่ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อเท่านั้นคุณยังสามารถสะพายเป้ และยังสามารถเพิ่มพื้นที่เก็บของที่จักรยานได้อีกด้วย นั่นทำให้คุณสามารถใช้จักรยานเพื่อเดินทางในชีวิตประจำวัน หรือใช้สำหรับเดินทางออกไปท่องโลกได้อย่างง่ายดาย
ปลุกความหิวของคุณ
เรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อน แต่ว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญที่ต้องการบันทึกไว้ เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้นักวิจัยเชื่อว่าการวิ่งนั้นมีประสิทธิภาพมากกว่าการขี่จักรยาน เพราะว่าการวิ่งจะทำให้ร่างกายปล่อยฮอร์โมนที่ช่วยในเรื่องการหิวตัวหนึ่งที่ชื่อว่า acylated ghrelin แต่ว่าการเปรียบเทียบตัวต่อตัวความอยากอาหารนั้นเกิดได้ทั้งจากการวิ่งอย่างหนักหน่วง หรือการปั่นจักรยานอย่างหนักหน่วง ในช่วงเวลาหนึ่งชั่วโมงเหมือนกันทีมนักวิจัยอังกฤษได้พบว่าทั้งสองกิจกรรมนั้นส่งผลให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยในเรื่องการหิวในปริมาณเท่าๆกัน และเช่นเคยการขี่จักรยานเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงนั้นก็สามารถทำได้ง่ายกว่าการวิ่งหนึ่งชั่วโมง
สไตล์ส่วนตัว
เป็นเรื่องจริงที่ว่าคุณสามารถซื้อรองเท้าวิ่งที่สวยๆ ได้ แต่ว่าสำหรับการขี่จักรยานนั้นคุณจะมาสามารถซื้อจักรยาน หมวกกันน็อค แว่นตา ถุงเท้า รองเท้า หมวกแก๊ป ฝาจุ๊บยาง กระเป๋าอาน ปลอกแขน ถุงมือ เสื้อแจ็คแก็ต เสื้อ และอื่นๆ อีกมายมาย นั่นทำให้การขี่จักรยานนั้นเป็นกีฬาที่ทำให้สามารถแสดงออกถึงความเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ในด้านแฟชั่น
ว้าว !!
การขี่จักรยานทำให้คุณรู้สึกเหมือนกำลังบินได้ บางครั้งก็เกิดจากการใช้ความเร็วในระดับบ้าคลั่ง และเพลิดเพลินไปกับลมที่พัดผ่านผมของคุณไป(ถึงแม้ว่าจะใส่หมวกกันน็อคอยู่ก็ตาม) นั่นเองคือรางวัลที่เกิดจากการปั่นจักรยานอย่างหนักของคุณ และการวิ่งลงเขานั้นยากมากกว่าการพยายามจะขึ้นซะอีก
แก่ไปด้วยกัน
การขี่จักรยานนั้นสร้างความสุขให้ได้กับทุกคนไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม การขี่จักรยานนั้นจึงใกล้เคียงที่จะเรียกได้ว่าเป็นกีฬาที่จะเล่นได้ตลอดชีวิต ดังที่มีคนกล่าวไว้ว่า "แม้ว่าคุณไม่สามารถที่จะเดินได้ แต่คุณก็ยังสามารถขี่จักรยานได้อยู่"
อย่างไรก็ตามการออกกำลังกายไม่ว่าจะวิ่งหรือขี่จักรยาน ก็ส่งผลดีต่อสุขภาพทั้งสิ้น เลือกสิ่งที่ชอบและเหมาะกับคุณ ก็สุขภาพของคุณนี่
แปลจาก ต้นฉบับ www.bicycling.com/