- หน้าแรก
- บทความ สาระ
- เรื่องของล้อและยางแบบ ขอบงัด ( clincher) และ ขอบฮาร์ฟ( tubular)
เรื่องของล้อและยางแบบ ขอบงัด ( clincher) และ ขอบฮาร์ฟ( tubular)
วันนี้เป็นวันที่น้าว่างมากๆ มีเวลานั่งคิดถึงเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาตลอดปีที่ผ่านมา และก็หนีไม่พ้นเรื่องล้อเสือหมอบซึ่งถือว่าเป็นปีที่น้าทดสอบล้อมามากที่สุดก็ว่าได้ ล้อที่ทำการทดสอบมามีทั้งแบบขอบงัด ( clincher) และ ขอบฮาร์ฟ( tubular) ทั้งขอบเตี้ย กลางและสูง
น้าลองนั่งวิเคาระห์ดูถ้าเราเอายางแบบ clincher และ ยางแบบ tubularในระดับเดียวกันมาเปรียบเทียบกันเถอะแล้วน้าว่าว่ามันแทบไม่ต่างกันเลย ทั้งความรู้สึกที่ได้จากการปั่นทดสอบและประสิทธิภาพของตัวยางเอง ในขณะที่มันไม่ต่างกันในด้านการด้านความทนทานและความแข็งแรง และในแวดวงเสือหมอบบ้านเราหลักมักอ้างกันว่ายาง tubular จะทนต่อการรั่วเพราะยางบิดและให้ตัวได้ดีกว่ายางแบบ clincher ซึ่งน้าก็เคยมีความเห็นเช่นนั้น เหตุผลที่อ้างเช่นนั้นก็เพราะยาง tubular มีอัตราการให้ตัวต่ำมากเมื่อเทียบกับยางแบบ clincher การให้ตัวต่ำจึงทำให้เสียดสีกับขอบล้อได้น้อย โอกาสจะรั่วก็มีน้อยตามไปด้วย และ สามารถเติมลมได้สูงกว่ามากอีกด้วย แต่ที่แน่นอนที่สุดคือวงล้อแบบ tubular. จะเบากว่าแบบclincher แต่ในขณะที่วงล้อเบากว่าอาจจะทำให้รู้สึกเหมือนกับจะตอบสนองต่อแรงปั่นได้ดีกว่า แต่มันกลับทำความเร็วได้ไม่มากกว่า น้ามีความเห็นว่า ล้อที่หนักกว่านั้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่อย่างที่พวกนักจักรยานทั่วไปชอบคิดกัน แม้ว่าจะมีแรงฉุดจริงแต่ก็มีน้อยมาก
ดังนั้นพวกนักจักรยานมือโปรจึงเลือกใช้ยาง tubular ตามความเชื่อและความต้องการของตัวเอง ไม่ใช่เพื่อลดน้ำหนักอะไรเลยเพราะเอาจริง ๆ แล้วมันให้ความรู้สึกในการขี่แทบไม่ต่างกัน ที่พวกมือโปรเขาเลือกยาง tubular ก็เพราะเขามีรถบริการคอยขับตามไปตลอดทาง ส่วนพวกเราถ้ายางเกิดแตกขึ้นมาคงทำอะไรไม่ได้จริงๆนอกจากขึ้นรถกลับบ้าน
ถ้ายังไม่มั่นใจว่าด้วยประสิทธิภาพแล้วมันแทบไม่ต่างกันแต่น้าก็มีข้อคิดให้ได้อย่างหนึ่งคือ ถ้าหากจะใช้ยาง tubular คนในกลุ่มควรจะมีมันติดตัวไปด้วย หากเกิดปัญหาตรงนี้จะง่ายมากในการเปลี่ยน แต่ถ้าไม่มีมืออาชีพจริง ๆ อยู่ใกล้ตัว ยาง clincher แบบประกอบยางนอกและยางในเดิม ๆ นั่นก็ใช้ดีทีเดียว ราคาไม่แพง หาซื้อง่าย ประกอบล้อก็ง่าย จะพกยางในติดตัวไปพร้อมกับหลอดคาร์บอนได้ออกไซด์เพื่อเติมลมยางก็ได้ ง่ายกว่าตั้งเยอะ น้าว่าการเลือกใช้ยาง clincher หรือ tubular. จึงน่าจะเป็นเรื่องรสนิยม หรือความชอบส่วนบุคคลมากกว่า หรืออาจจะเลือกตามนักแข่งมือโปรทั้งหลาย หรือเป็นความเชื่อที่สืบต่อกันมาและ น่าเป็นเรื่องของสไตล์มากกว่าประโยชน์ใช้สอยจริง
ทดสอบทั้งล้อ clinchers และ tubulars สรุปเป็นเรื่องราวได้ว่า
- ปีที่ผ่านมา น้าไม่เคยยางรั่วแม้แต่ครั้งเดียวทั้ง clincher & tubular
- อัตราการเร่งที่ดีหรือไม่ดี ส่วนมากเกิดจากน้ำหนักของล้อและความสูงของขอบล้อเป็นหลักไม่ใช่ขอบ clincher& tubular
- ล้อหนักยืนความเร็วสูงได้ดีกว่าล้อเบาชัดเจน ไม่ใช่เป็นเพราะขอบ clincher & tubular
- ล้อขอบสูงยืนความเร็วสูงได้ดีกว่าล้อขอบต่ำชัดเจนไม่ใช่เพราะ clincher& tubular
- ความนุ่มนวลของล้อ เป็นที่คุณภาพของเนื้อคาร์บอนที่ใช้ทำขอบล้อมากกว่าที่จะเป็นเพราะล้อแบบ clincher& tubular และเป็นที่เนื้อยางมากกว่า ยางคุณภาพสูงที่มีค่า Tpi สูง มักจะนิ่มนวลไม่กระด้างและยึดเกาะถนนได้ดี
- ล้อแบบ clincher ถ้าเราใช้ยางคุณภาพสูงมาใช้ การใช้งานน้าไม่สามารถแยกออกว่า ด้อยกว่า แบบ tublar ตรงไหน
- ยางแบบ tublar ถ้าเป็นตัวรุ่นสูง ราคาแพงมาก ดังนั้นหลายคนจึงเลือกยางที่ราคาด้อยลงมาทำให้ประสิทธิภาพไม่หนี ล้อ clincher ใส่ยางดีๆแต่อย่างใด ยางดีๆแบบขอบงัดราคาจัดซื้อได้ที่ พันกว่าบาท ขณะที่ขอบ ฮาร์ฟรุ่นสูงหน่อยเริ่มที่สองพันกว่าบาท
- คนที่ยางรั่วบ่อย นอกจากโชคชะตาแล้ว เป็นเพราะปั่นจักรยานอยู่ริมทางมากเกินไปตรงนั้นเป็นแหล่งรวมสารพัดสิ่งที่บรรดายางทุกชนิดหวาดหวั่น ไม่เกี่ยวกับยางแบบ clincher& tubular แต่อย่างใด
- ด้วยเหตุนี้ล้อของน้าที่ใช้เอง คู่ล่าสุดที่เพิ่งสั่งซื้อมาจึงเป็นขอบงัดซะ ทีนี้ก็เป็นเรื่องว่า มีคำถามตามมาทันทีเลยว่า น้าเป้ชอบปั่นเน้นสมรรถนะ ทำไมถึงเลือกใช้ล้อแบบ clincher เหตุผลคือ ตามที่ได้กล่าวมาแล้ว
* ทั้งหมดที่น้ากล่าวมาเป็นความเห็นส่วนตัวของคนที่ผ่านการทดสอบล้อมามากมาย อาจจะไม่สามารถหักล้างความเชื่อที่มีมาเป็นเวลาที่ยาวนานได้ ห้ามเอาไป ดราม่า ต้มมาม่า และไม่ต้องปูเสื่อรอ มีอะไรถามมาตรงๆในโพสนี้เลย อย่าเอาไปถามคนนอกให้น้าเดือดเนื้อร้อนใจอีก ขอย้ำอีกครั้งว่า เป็นความเห็นและความรู้สึกส่วนตัวของน้าเท่านั้น
เครดิต พิชิตชน สุนทรวร เป้ มหาชัย กลุ่ม 100 Rpm Room