- หน้าแรก
- บทความ สาระ
- เริ่มต้นหัดปั่นจักรยาน เริ่มต้นอย่างไรดี ตอนที่ 1
เริ่มต้นหัดปั่นจักรยาน เริ่มต้นอย่างไรดี ตอนที่ 1
"น้าครับ ผม(หนู) พึ่งเริ่มต้นหัดปั่นจักรยาน จะเริ่มต้นอย่างไรดีครับ(ค่ะ)" คำถามอมตะ อภิมหานิรันดร์กาล กันเลยทีเดียว น้าเจอบ่อยถึงบ่อยที่สุด ทั้งโทรมาถาม, message, in box และ pm ในเวป
คำถามดูธรรมดาสามัญมากๆ แต่น้าจะบอกเลย ยากที่จะตอบให้หมดครบถ้วนได้ ในการคุยเพียงครั้งเดียว หรือ ตอบโดยการพิมพ์เป็นข้อความ ซึ่งต้องร่ายยาวเป็นมหากาพย์กันทีเดียว ต้องใช้เวลามากในการพิมพ์ตอบ ในแต่ละคน ทำให้น้าไม่สามารถตอบได้ละเอียดและครอบคลุมทุกเรื่องได้ ถ้าเป็นหนุ่มๆ อาจจะอธิบายคร่าวๆแล้วไล่ให้ไปค้นหาบทความของน้า อ่านเพิ่มเติม ถ้าเป็นสาวๆถามมา อันนี้ยินดีและเต็มใจอธิบายได้ยาวและนานหน่อย ถ้ายังไม่ get อาจจะมีต่อเนื่อง และติดตามผลให้จนกว่าจะเข้าใจ ถ้ามาประมาณขาว สวย หมวย อึ๋ม อาจดันจนขึ้นโพเดี่ยม กันเลยทีเดียว
กรณีแรก ยังไม่มีรถเป็นของตนเอง
น้าแนะนำว่า การจะไปซื้อรถด้วยตัวเองเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าจะได้ทำการศึกษาหาข้อมูลมาแล้ว แต่การศึกษาช้อมูลต่างๆมา ก็ยังสู้กับประสบการณ์ไม่ได้ ดัวนั้น ทางที่ดีควรหาผู้รู้ ผู้ที่ปั่นมานานมีประสบการณ์การใช้รถมาอย่างหลากหลาย ไปเป็นเพื่อนช่วยเลือกซื้อด้วย
คำแนะนำของทางร้านจักรยาน อาจจะเชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง แต่น้าขอยืนยันเลยว่า ต่อให้เจ้าของร้านจักรยานจะดีเลิศ มีจรรยาบรรณด้านการขายขนาดไหน ก็ไม่สามารถแนะนำแบบจริงใจ 100% ได้นะครับ เพราะร้านจักรยานเป็นธุรกิจ ยังต้องดำรงคงอยู่ได้ด้วยการขายจักรยาน ดังนั้นหน้าที่ของทางร้านคือ " การขายจักรยานให้ได้ " แม้บางครั้งอาจไม่ถูกต้องนัก
น้าเจอปัญหาที่ทางร้านยัดจักรยานให้แก่ผู้ซื้อมาแบบ ผิดๆ ไม่ถูกต้อง มามากครับ เพราะ พอจักรยานผิดขนาด ไม่เล็กก็ใหญ่ ไป ส่วนมากจะใหญ่เกินไปเสียมากกว่า ไม่ได้เป็นของตัวเองที่เจอมานะแต่เป็นของน้องๆ เพื่อนๆ และลูกศิษย์ นี้แหละ ตอนซื้อไม่ปรึกษาพอได้มาผิดขนาด โดนทางร้าน แนะนำแบบผิดๆมา ปรากฏปั่นไม่ได้ น้าต้องมาแก้ไขให้ บางคนก็พอแก้ได้ บางคนก็หมดปัญญา มีทางเดียวต้องขายรถทิ้งกันไป
ทางที่ดีให้พาเพื่อนที่มีความรู้และมีประสบการณ์ไปช่วยเลือกครับ ฟังเพื่อนให้มากกว่าทางร้าน อย่าให้ความอยาก เข้ามาครอบงำเป็นอันขาด ร้านนี้ไม่มีก็ไปร้านอื่น ร้านอื่นไม่มีก็รอครับ ไม่งั้นเสียเงินสองต่อแน่ๆ
นอกจากรถที่ขนาดถูกต้องเหมาะสมกับตัวเราแล้ว สิ่งสำคัญคือ รถที่ซื้อควรจะเหมาะสมกับการใช้งานของเราด้วย อย่าซื้อเพราะความสวยอย่างเดียว เช่น อายุเข้าวัย สว. แล้ว อยากได้รถทางเรียบไว้ปั่นออกกำลังเดินทางไกล และทำความเร็วได้บ้าง ปรากฏว่า ไปซื้อรถ top of the line ของแต่ละยี่ห้อมา เพราะสวยงามราคาแพง มันต้องดีแน่ๆแต่เอามาใช้งานกลับปั่นไม่ได้ เพราะ รถรุ่นสูงๆจะทำไว้เพื่อการแข่งขัน มีความแข็ง กระด้าง ท่อคอสั้น ปั่นต้องก้มมาก ปั่นไม่สบาย ปวดเมื่อยไปหมด ในทีสุดก็ไม่สามารถปั่นได้ แบบนี้เรียกว่า ซื้อรถไม่เหมาะกับตัวเอง เคสนี้ต้องซื้อรถแนว แอนดูแรนซ์เท่านั้นครับ ที่ออกแบบมาให้ปั่นได้สบาย ปั่นไกลๆได้ โดยเซพตัวได้มากทีเดียว
หรือเป็นสุภาพสตรี ก็ควรซื้อรถที่ออกแบบมาสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะนะครับ จะทำให้ปั่นสบายกว่ามาก เพราะรถได้ถูกออกแบบมาให้เข้ากับสรีระของผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นองศาของเฟรม ขนาดท่อนนอนที่สั้นกว่า ขนาดเบาะที่เข้ารูปกับโครงสร้างทางกายวิภาคของผู้หญิง ทำให้ปั่นได้สบายครับ (*การเลือกซื้อรถของสุภาพสตรี น้าเคยเขียนเป็นบทความไว้แล้วครับ ลองหาอ่านกันดูในกลุ่มนี้แหละ)
เมื่อได้รถที่ถูกต้องเหมาะสมกับตัวเองแล้ว ถึงเวลาที่จะเริ่มปั่นกันแล้ว มือใหม่คงไม่รู้สินะ ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี ถ้าไม่ได้มีการศึกษาและวางแผนการปั่นมาก่อน คงหายากนะครับ ที่จะเริ่มต้นกันถูกวิธี โดยมาก กว่า 80% ขึ้นไปซื้อรถมาแล้วก็ออกไปปั่นกับเพื่อนๆเลย หรือถูกดึงเข้ากลุ่มปั่นโดยที่ยังไม่มีทักษะและยังไม่มีการสร้างระบบพื้นฐานในการปั่นจักรยานแม้แต่น้อย
ข้อผิดพลาดของนักปั่นมือใหม่
- พยายามปั่นให้เร็วตั้งแต่แรก โดยจุดประสงค์คือ ต้องการปั่นให้ทันเพื่อน ทันกลุ่ม ไม่อยากถูกทิ้ง
- ไม่มีความรู้ความชำนาญเรื่องระบบเกียร์ ใช้ผิดๆถูกๆ ตรงนี้มักจะเกิดความเสียหายสึกหรอขึ้น บางคนถึงขนาดชุดขับเคลื่อนพังกันเลยทีเดียว
- กดหนักอย่างเดียว ปั่นแบบไม่มีรอบขา เพราะจะรู้สึกสบายกว่าไม่ค่อยเหนื่อย
- ขาดทักษะเรื่องการปั่นกลุ่ม ตรงนี้เป็นเหตุให้เกิดอันตรายได้ต่อตัวเองและผู้อื่น
- ส่วนมากไม่รู้และไม่เคยศึกษาถึงวิธีการฝึกปั่นมากก่อน ขาดพื้นฐานด้านความทนทานอันเป็นส่วนสำคัญของกีฬาจักรยาน ขาดพื้นฐานด้านความแข็งแรงและประสิทธิภาพในการปั่น
- มือใหม่หลายๆ คน ไม่กล้าใส่ชุดปั่นจักรยาน เพราะมันรัดรูป รู้สึกอาย แต่การทำเช่นนี้มีผลต่อการปั่นจักรยานเลยทีเดียว เพราะจะทำให้ไม่สามารถนั่งปั่นบนอานได้นาน แป๊ปเดียวก็เจ็บแล้ว เนื่องจากไม่มีเป้ามารองรับ เมื่อเจ็บก้นแล้ว ครั้งต่อๆ ไปอาจเข็ด ไม่อยากมาปั่นอีก
...เมื่อเลือกซื้อรถเป็นของตนเองถูกต้องและเหมาะสมแล้ว อุปกรณ์ส่วนประกอบในการฝึกควรต้องครบด้วย เช่น หมวกกันกระแทก ถุงมือ รองเท้าพื้นแข็ง ถ้าให้ดีควรเป็นรองเท้าสำหรับปั่นจักรยานโดยตรง และชุดปั่นจักรยาน และต่อไปจะเป็นการเริ่มฝึกซ้อมปั่นกันแล้วนะครับ ว่า มือใหม่ควรจะเริ่มปั่นแบบไหนก่อน
จัดตารางฝึกซ้อมรายสัปดาห์ ข้อนี้ สำคัญครับ เพราะแต่ละคนมีวันเวลาทำงานไม่เหมือนกัน ไม่มีวันและเวลาไหนดีที่สุด อยู่ที่ความเหมาะสมมากกว่า ใครว่างช่วงไหนก็จัดเวลาในช่วงนั้นเลย
หาวันฝึกให้ได้ 3-5 วันสำหรับมือใหม่ เช่น น้ำหวาน ทำงาน จันทร์-ศุกร์ หยุดวันเสาร์และอาทิตย์ และต้องการปั่นจักรยานให้ได้ 4 วันต่อสัปดาห์ โดยเลือกวันฝึกดังนี้
- วันอาทิตย์ ตื่นเช้าออกปั่นยาวๆ
- วันจันทร์ พัก
- วันอังคารหลังเลิกงานปั่น 1.30 ชม.
- วันพุธหลังเลิกงานเข้าฟิตเนสและปั่นเบาๆอีก 1 ชม.
- วันพฤหัส พัก
- วันศุกร์ ปั่น 1-2 ชม. และเวทเทรนนิ่ง
- วันเสาร์ พักหรือ cross training
เมื่อจัดวันได้ลงตัวแล้ว มาดูกันต่อว่า แต่ละวันควรเริ่มฝึกอย่างไรดี
เครดิต พิชิตชน สุนทรวร เป้ มหาชัย กลุ่ม 100 Rpm Room