- หน้าแรก
- บทความ สาระ
- คาเฟอีนช่วยให้คุณขี่จักรยานได้ทนขึ้นและเร็วขึ้น
คาเฟอีนช่วยให้คุณขี่จักรยานได้ทนขึ้นและเร็วขึ้น
พวกเราหลายคนที่ชอบขี่จักรยานลุยๆ ไม่ว่าจะเป็นการแข่ง การขี่ทางเขา-ทางวิบาก หรือการขี่ทางไกล จะคุ้นเคยกับการกินอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มบางอย่างเพื่อเพิ่มพลังในการปั่น ซึ่งก็อาจจะต่างกันไปจากประสบการณ์ ความรู้สึก หรือความรู้-การบอกเล่าที่ได้รับมา คิดว่าบางคนอาจเคยได้ยินว่า การดื่มกาแฟช่วยให้ขี่จักรยานได้เร็วขึ้นและทนขึ้น เอาเฉพาะเรื่องกาแฟนี่ มีคนเอางานวิจัยมายืนยันแล้วว่า กาแฟ หรือจะพูดให้เฉพาะเจาะจงคือสารคาเฟอีน อาจช่วยให้ขี่จักรยานได้ดีขึ้นในแง่นั้นจริงๆ
ผู้เขียนชื่อ ซาราห์ บาร์ธ เขียนลงใน http://road.cc อ้างงานวิจัยหลายชิ้น เช่น งานวิจัยของ University of Alicante พบว่า เมื่อให้นักจักรยานสมัครเล่น 70 คนรับคาเฟอีนผสมกับเจลคาร์โบไฮเดรท (carbohydrate gel) เป็นสัดส่วนตามน้ำหนักตัวต่างกันไป และปล่อยไว้ 70 นาที ก่อนจะให้ปั่นจักรยานเป็นเวลา 1ชั่วโมง คนที่ได้รับส่วนผสมของสารทั้งสองนี้มากปั่นได้ดีกว่าคนที่รับแต่เพียงเล็กน้อยหรือไม่ได้รับเลย โดยมีข้อบ่งชี้ว่ายิ่งได้รับคาเฟอีนมากขึ้น นักจักรยานก็จะยิ่งได้รับพลังงานมากขึ้น อีกงานวิจัยหนึ่งของ Birmingham University ที่ตีพิมพ์เมื่อปีที่แล้ว ทดลองให้คาเฟอีนกับนักจักรยาน 0.5 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมและพบว่า คาเฟอีนในปริมาณนี้มากพอที่จะทำให้คนที่ได้รับได้เปรียบคนที่ไม่ได้รับเลยในการแข่งประเภท Time Trial เป็นเวลา 45 นาที ผู้เขียนยังบอกด้วยว่า นักปั่นสามารถทำการทดลองที่เป็นวิทยาศาสตร์ทั้งสองนี้ได้ด้วยตนเองที่บ้าน โดยรับคาเฟอีนเข้าร่างกายในสัดส่วนเดียวกันคือ 0.5-0.6 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยคาเฟอีนนั้นจะมาจากช่องทางใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ หรือเครื่องดื่มชูกำลังทั้งหลาย หรือเจลให้พลังงานที่มีการเติมคาเฟอีนลงไป
การที่คาเฟอีนเป็นสารให้พลังงานนี่เองที่ทำให้มันเคยถูกวงการกีฬาจัดว่าเป็น “สารกระตุ้น” หรือ “สารบำรุงกำลัง” และอาจจะถูกจัดว่าเป็นเช่นนั้นอีกครั้งหนึ่ง นายจอห์น ฟาฮีย์ อดีตประธานของหน่วยงานต่อต้านการใช้สารบำรุงกำลังโลก (World Anti-Doping Agency หรือ WADA) ที่ทำหน้าที่ควบคุมและตรวจสอบการใช้สารบำรุงกำลังหรือสารกระตุ้นของนักกีฬาในการแข่งขันกีฬานานาชาติ เคยเสนอเมื่อปี 2553 ให้มีการห้ามใช้คาเฟอีนในระหว่างที่มีการแข่งขันกีฬาอีกครั้งหนึ่ง นายฟาฮีย์ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ The Age ที่ตีพิมพ์ในเมืองเมลเบอร์น ประเทศออสเตรเลีย ว่าในความเห็นของเขาแล้ว ถึงแม้ว่าการใช้คาเฟอีนจะถูกกฎหมาย แต่มันก็ขัดกับจิตวิญญาณของการกีฬา ทำให้วงการกีฬาเสื่อมเสียชื่อเสียง เขาบอกด้วยว่าจะขอให้คณะกรรมการด้านการแพทย์ของ WADA ทบทวนดูว่าจะเอาคาเฟอีนกลับไปอยู่ในรายชื่อสารต้องห้ามอีกครั้งหนึ่งหรือไม่ คาเฟอีนเคยอยู่ในรายการสารต้องห้าม โดยมีขอบเขตตามกฎหมายว่า นักกีฬาจะต้องไม่มีคาเฟอีนเกินกว่า 12 มิลลิกรัมในน้ำปัสสาวะ 1 มิลลิลิตร ซึ่งคิดง่ายๆว่าเท่ากับปริมาณคาเฟอีนในกาแฟเอสเพรสโซราว 8 ถ้วย ข้อห้ามนี้ถูกยกเลิกและคาเฟอีนถูกถอนออกจากรายการสารต้องห้ามในปี 2547 เขาบอกว่าเมื่อเอาออกได้ก็เอาใส่กลับเข้าไปใหม่ได้ เมื่อพิจารณาจากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และสถานการณ์ในปัจจุบัน
แต่สำหรับเราท่านที่ไม่ได้ปั่นจักรยานเพื่อการแข่งขันในรายการกีฬาที่เข้ามาตรฐานสากล แต่ปั่นจักรยานเพื่อการท่องเที่ยวทางไกลหรือเพื่อการผจญภัย การเพิ่มพลังให้ร่างกายด้วยการรับคาเฟอีนผ่านการดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มบำรุงกำลัง ให้สามารถปั่นจักรยานได้ทนขึ้นเร็วขึ้น ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่อาจนำมาพิจารณา แต่แน่นอนว่าต้องไม่รับเข้าไปมากเกินไป