รายงานข่าวแจ้งว่า สำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.)กรุงเทพมหานคร(กทม.)เตรียมดำเนินโครงการส่งเสริมการเดินทางอย่างยั่งยืนประจำปี2559โดยพื้นที่ที่กทม.ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการจราจรคือ พื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ซึ่งปัจจุบันเกาะรัตนโกสินทร์มีรถโดยสารท่องเที่ยวขนาดใหญ่และรถตู้โดยสารนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่มากกว่า1,000คันต่อวันการจอดรับ-ส่งนักท่องเที่ยวไม่เป็นระเบียบจอดกีดขวาง เกิดปัญหาการจราจรเกิดมลพิษทางอากาศและเสียงยังก่อให้เกิดการสั่นสะเทือนโดยรอบพื้นที่ซึ่งอาจทำให้โบราณสถานอันมีค่าของประเทศชำรุดทรุดโทรมเร็วขึ้นจึงมีแนวคิดที่จะให้พื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ปลอดจากรถยนต์ อย่างน้อยเดือนละ1วันด้วยการพัฒนาทำเส้นทางจักรยานระยะทาง8ก.ม.และจะได้มีการทดลองนำระบบเสริมอื่นๆได้แก่ รถบัส มาทดลองวิ่งในเกาะรัตนโกสินทร์เพื่อให้ประชาชนได้คุ้นเคยกับการเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลพร้อมบริหารจัดการให้มีสถานที่ท่องเที่ยวพิเศษทั้งโซนท่องเที่ยวเมืองเก่าโซนท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยาและโซนพาณิชย์รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วยหากประชาชนปรับเปลี่ยนการเดินทางได้อย่างยั่งยืนนอกจากจะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรภายในเกาะรัตนโกสินทร์โดยรอบแล้วยังช่วยเสริมสร้างภูมิทัศน์และสร้างบรรยากาศที่ดีในย่านเมืองเก่าเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์วัฒนธรรมเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เดินและปั่นรอบเกาะรัตนโกสินทร์เยี่ยมชมสถาปัตยกรรมอันงดงามและเพลิดเพลินกับวิถีชีวิตของชุมชนดั้งเดิมในพื้นที่กระตุ้นให้ประชาชนในพื้นที่หันมาใช้การเดินทางโดยไม่ใช้เครื่องยนต์ในชีวิตประจำวันโดยจะสร้างการมีส่วนร่วมและระดมความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ตามแนวคิดของกทม.ที่จะให้พื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ปลอดและส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้รูปแบบการเดินทางอื่นๆนอกจากรถยนต์ส่วนบุคคล เช่นระบบขนส่งมวลชน ระบบขนส่งสาธารณะการใช้จักรยาน การเดินช่วยแก้ปัญหาจราจรและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน

ทั้งนี้จะมีการจัดกิจกรรมรับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์เช่น นักธุรกิจในพื้นที่ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้ององค์กรเอกชน ภาคประชาสังคมผู้นำชุมชน เป็นต้นเพื่อให้ประชาชนเป็นแนวร่วมในการสนับสนุนแนวคิดของกทม.ที่จะให้พื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ปลอดรถยนต์โดยจะใช้งบประมาณ 30ล้านบาทใช้เวลาในการดำเนินโครงการ1ปี.“