- หน้าแรก
- ข่าวชาวจักรยาน
- เดินหน้าทางริมเจ้าพระยาแห่งแรกสะพานนนท์-พระราม5 คาดเสร็จปี 62
เดินหน้าทางริมเจ้าพระยาแห่งแรกสะพานนนท์-พระราม5 คาดเสร็จปี 62
เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2558 ที่โรงแรมชาเทรียม สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) จัดสัมนารับฟังความเห็นประชาชนครั้งที่ 2 โครงการการศึกษาความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ วิศวกรรม และสิ่งแวดล้อม ถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ระยะ 140 กิโลเมตรเริ่มตั้งแต่สะพานปทุมธานี1 จ.ปทุมธานี-คลองรัดโพธิ์ จ.สมุทรปราการโดยมีนายพรศักดิ์ สมใจ รองปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธานในการเปิดการจัดสัมนา ซึ่งประชาชนเข้าร่วมประมาณ 150 คน
นายวิจิตต์ นิมิตรวานิชย์ นักวิชาการขนส่งผู้ทรงคุณวุฒิ สนข. กล่าวว่า สนข.ได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมไป แล้วกว่า 6 เดือนโดยในเดือนธ.ค. 58จะแล้วเสร็จซึ่งเบื้องต้นทางที่ปรึกษาและสนข.ได้มีการคัดเลือกพื้นที่บริเวณสะพานมหาเจษฎา บดินทรานุสรณ์(สะพานนนทบุรี1)-สะพานพระราม 5 ระยะทางสองฝั่งรวม 5.7 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ต้นแบบจากทั้งหมด 8 พื้นที่เพื่อนำมาออกแบบรายละเอียดโครงการเบื้องต้นก่อนที่จะมอบให้องค์การปกครองท้องถิ่นไปดำเนินการต่อ สำหรับงบประมาณก่อสร้างประมาณ 2,500 ล้านบาทซึ่งในการออกแบบจะเน้นการปรับปรุงถนนเดิมและถนนที่เข้าถึงพื้นที่ริม น้ำขนาด 4-6 เมตร ทางจักรยาน ปรับปรุงสวน ลานกิจกรรม ลานหน้าวัด และจุดแวะพักผ่อนเป็นอันดับแรก สำหรับสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณหน้าศาลากลางเก่านนทบุรี ข้ามไปฝั่งบางศรีเมืองจะมีการก่อสร้างเป็นรูปแบบ 2 ชั้นขนาดกว้าง 4-6 เมตรสำหรับทางเดินคนและทางจักรยานเท่านั้นไม่ใช้สำหรับรถยนต์ผ่าน ซึ่งหากจุดใดเป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ก็จะต้องมีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมตาม ที่กฎหมายกำหนดไว้ก่อน ทั้งนี้ในส่วนของรูปแบบถนนจะเป็นทางเดินลอยน้ำพื้นคอนกรีตลักษณะคล้ายโป๊ะ ท่าเรือแต่จะไม่โคลงเคลง และไม่ขวางทางน้ำไหล เพราะตัวทางเดินจะสามารถลอยขึ้นตามระดับน้ำได้ ส่วนจุดที่มีเขื่อนป้องกันน้ำท่วมจะมีการเปิดพื้นที่โดยการเจาะกำแพงเขื่อน เพื่อให้ประชาชนสามารถออกมาใช้ถนนได้
นายวิจิตต์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามโครงการดังกล่าวสนข.ได้เน้นประโยชน์ในแง่การเชื่อมต่อระบบขนส่ง ทางน้ำ ทางราง และทางรถเพื่อให้ชุมชนสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น รวมทั้งจะไม่มีการเวนคืนพื้นที่เพราะทางสนข.ต้องการให้โครงการถนนเลียบเจ้า พระยาเข้ากับวิธีชีวิตดั่งเดิมของคนในชุมชนได้ อย่างไรก็ตามจากที่มีการลงพื้นที่รับฟังความเห็นประชาชนกลุ่มย่อยมาแล้วกว่า 6 ครั้งพบว่ามีประชาชนที่เห็นด้วยกับโครงการมากถึงร้อยละ 82 ซึ่งภายหลังจากที่บริษัทที่ปรึกษาทำสรุปและส่งรายละเอียดให้แก่สนข.แล้ว สนข.จะมีการทำรายงานเพื่อเสนอไปยังกระทรวงคมนามคมเพื่อเสนอเข้าสู่การ พิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบในผลการศึกษาคาดว่าจะเสนอเข้าครม.ได้ ประมาณเดือนม.ค. 59 ทั้งนี้หากครม.เห็นชอบในผลการศึกษาจะสามารถออกแบบรายละเอียดโครงการได้ ประมาณปี 60ซึ่งในขั้นตอนนี้จะใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 1 ปีโดยจะแล้วเสร็จประมาณปี 61 หลังจากนั้นก็จะใช้เวลาในการก่อสร้างโครงการให้แล้วเสร็จประมาณปี 63 ซึ่งทางสนข.ไดกำหนดแผนจะดำเนินโครงการดังกล่าวไว้ประมาณ 5 ปี ตั้งแต่ปี 59-63 โดยเฉพาะโครงสร้างเล็กๆน้อยๆประชาชนอาจจะได้เห็นประมาณปี 62 เนื่องจากสามารถดำเนินการได้ทันทีโดยต้องให้ผลการศึกษาสิ่งแวดล้อมเสร็จ.“