เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายวันปิยะ พิมเสน อดีตเลขานุการ นายมาโนช เสนพงศ์ นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ว่าเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ตนได้ช่วยเหลือ ด.ช.วีรไทย วังหอม หรือ “น้องแสตมป์” อายุ 9 ขวบ หนูน้อยหัวใจแกร่ง ซึ่งปั่นจักรยานสองล้อออกจากที่พัก ในค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ไปตามถนนสายนครศรีธรรมราช-สุราษฏร์ธานี ตามลำพังโดยมีจุดหมายปลายทางไปพบพ่อแม่ที่ ทำงานอยู่ในเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และไม่ได้พบหน้ากันเป็นเวลานาน กระทั่งชาวบ้านไปพบ ด.ช.วีรไทย ขณะปั่นจักรยานด้วยอาการเหนื่อยล้า อิดโรย และหิวกระหาย จึงแจ้งให้ตนทราบและเข้าทำการช่วยเหลือ โดยการจัดหาน้ำดื่ม และ นมถั่วเหลือง และขนมขบเคี้ยวให้รับประทานและนั่งพักผอน โดยด.ช.วีระไทย เล่าให้ฟังว่า ตั้งใจจะปั่นรถจักรยานไปหาพ่อชื่อตั๊ก และ แม่ชื่อแนน ซึ่งทำงานอยู่ทำงานอยู่ที่ อ.เกาะสมุย เพราะทนคิดถึงพ่อแม่ไม่ไหว

นายวันปิยะ กล่าวต่อไปว่า หลังทราบเรื่องราวความตั้งใจของหนูน้อย ก็นู้สึกสงสารและเป็นห่วงเกรงว่า หากปล่อยให้ ด.ช.วีระไทย ปั่นจักรยาน ต่อไปตามลำพังเกรงจะได้รับอันตราย ทั้งจากอุบัติเหตุรถชน หรืออาจจะถูกแก๊งมิจฉาชีพล่อลวงไปในทางไม่ดีได้ จึงประสานพ่อแม่ของเด็กให้ทราบเพื่อให้สละเวลาเดินทางมาเยี่ยมลูกบ้าง ล่าสุดญาติของน้องแสตมป์ ซึ่งรับราชการทหารประจำอยู่ในค่ายวชิราวุธ ได้เดินทางมารับตัวเด็กกลับไป รวมระยะทางที่ ด.ช.วีระไทย ปั่นจักรยานจากค่ายวชิราวุธไปถึงเขตรอบต่อ อ.ท่าศาลา-อ.สิชล เกือบ 50 กิโลเมตร ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าสำหรับ น้องแสตมป์ เป็นหลานชายของนายทหาร ยศ “พลตรี” ในกองทัพภาคที่ 4 นายหนึ่ง หลังทราบว่า น้องแสตมป์ คิดถึงพ่อแม่มาก จนถึงกับตัดสินใจจะปั่นจักรยานไปหาพ่อและแม่ จึงเตรียมพาน้องแสตมป์เดินทางไปหาพ่อแม่ที่ อ.เกาะสมุย เองหรืออาจจะแจ้งพ่อแม่ให้หาเวลาว่างกลับมาเยี่ยมน้องแสตมป์บ่อย ๆ เพื่อให้มีโอกาสได้ใกล้ชิดพ่อแม่ ซึ่งจะช่วยให้น้องแสตมป์หายคิดถึงไม่ตัดสินใจเสี่ยงอันตร่ายปั่นจักรยานไปหาพ่อแม่อีก.

ถึงแม้จะปั่นไปไม่ถึง แต่น้องก็ปั่นไปได้ถึง 50 กิโลทีเดียว เรื่องนี้น่าจะ