สมเด็จพระบรมฯ พระราชทานจักรยานให้ "น้องทาม" เด็กชายไร้แขน
สมเด็จพระบรมฯ พระราชทานจักรยานให้ "น้องทาม" เด็กชายไร้แขนที่เข้าร่วมกิจกรรม ไบค์ ฟอร์ มัม 16 ส.ค. หลังทอดพระเนตรภาพหนูน้อยวัย 11 ขวบ ชาวพิษณุโลก ใช้คางบังคับแฮนด์จักรยานด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจร่วมปั่นในกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ถึง 7 ก.ม. หนึ่งในภาพถ่ายที่ได้รับรางวัลชมเชยจากภาพที่ส่งเข้าประกวด 48,000 ภาพ เผยทรงสนพระทัยภาพนี้เป็นพิเศษ รับสั่งถึงน้องทามว่าตั้งใจมาก แม้ร่างกายจะพิการแต่หัวใจแข็งแกร่งเปรียบเสมือนหัวใจเป็นสีธงชาติ ทรงให้กองกิจการส่วนพระองค์ฯ ตามหาตัวหนูน้อยเพื่อช่วยเหลือต่อไป พร้อมพระราชทานจักรยานพระองค์ทีดัดแปลงให้เหมาะกับน้องทามไปมอบให้ ด้านน้องทามพร้อมแม่ปลื้มปีติดีใจ จะดูแลรักษาจักรยานพระราชทานอย่างดี และปั่นไปโรงเรียนทุกวัน
เมื่อวันที่ 6 ก.ย. นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการอำนวยการจัดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติ Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่ กล่าวว่า ภายหลังจากที่กระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับคณะกรรมการจัดงานกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติ Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่ แถลงผลตัดสินการประกวดภาพถ่าย Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทอดพระเนตรภาพทั้งหมดที่เข้ารอบ 1,000 ภาพ จาก 48,000 ภาพ ที่ประชาชนส่งเข้าร่วมประกวดจากทั่วประเทศ เมื่อพระองค์ท่านทอดพระเนตรเห็นภาพน้องทาม หรือ ด.ช.วรรณธนะ คำอินทร์ เด็กชายไร้แขนชาวจ.พิษณุโลก วัย 11 ปี ร่วมปั่นจักรยานเทิดพระเกียรติในวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ทรงสนพระทัยภาพนี้เป็นพิเศษ โดยเป็นภาพประกวดที่ได้รับรางวัลชมเชย ประเภทความมุ่งมั่น ถ่ายโดยนายเสกสรร เสาวรส
พระองค์ท่านรับสั่งว่าเด็กคนนี้มีความตั้งใจมากที่จะมาร่วมงานปั่นเพื่อแม่ ทรงเห็นความอุตสาหะ ทอดพระเนตรเห็นในภาพว่าน้องทามไม่มีแขน น้องทามใช้คางจับแฮนด์แทนแขนซึ่งจะต้องใช้พละกำลังอย่างมากในการปั่นจักรยาน ต้องมีความมุ่งมั่นและตั้งใจเป็นอย่างมากในการใช้คางจับแฮนด์และใช้เท้าถีบจักรยาน พระองค์รับสั่งว่าเขามีความตั้งใจมาก ถึงแม้ร่างกายจะพิการแต่หัวใจนั้นแข็งแกร่งเปรียบเสมือนหัวใจของเขาเป็นสีธงชาติ ซึ่งในความหมายของพระองค์ท่านคือเป็นผู้ที่เกิดมาเพื่อแผ่นดิน อะไรก็ตามที่เขาได้แสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีและมีส่วนร่วม ถึงแม้เด็กคนนี้จะพิการไม่มีแขนทั้งสองข้างซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญในการปั่นจักรยาน น้องทามสามารถปั่นจักรยานโดยใช้คางดันและใช้เท้าถีบจักรยานเป็นระยะทาง 7 กิโลเมตร พระองค์รับสั่งว่าความแข็งแกร่งในเรื่องหัวใจของน้องทามนั้นถือว่าน่ายกย่องและน่านับถือมาก หัวใจของเขานั้นเป็นสีของธงชาติรักแผ่นดิน นายสุริยันกล่าว
นายสุริยันกล่าวต่อว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ รับสั่งถามว่าเด็กคนนี้อยู่ที่ไหน ซึ่งตนมีข้อมูลจากคนส่งภาพเข้ามาและได้กราบบังคมทูลพระองค์ท่านว่าน้องทามอยู่ จ.พิษณุโลก พระองค์ท่านรับสั่งให้ตามหาเด็กคนนี้ และรับสั่งให้สำนักงานราชเลขานุการในพระองค์ กองกิจการในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ลงพื้นที่ดูประวัติความเป็นมาของเด็กคนนี้
พระองค์ท่านจะพระราชทานจักรยานให้เด็กคนนี้ใช้ในการดำรงชีวิต เป็นจักรยานที่คนไม่มีแขนสองข้างสามารถปั่นได้โดยจะเปลี่ยนเกียร์และเบรกให้ไปอยู่ที่เท้า พร้อมกับแก้ไขจักรยานให้สามารถใช้ได้โดยไม่เจ็บบริเวณคาง เพราะบริเวณแฮนด์ที่คางรองนั้นจะแข็งและเจ็บ พระองค์ทรงนึกอย่างละเอียดมาก รับสั่งว่า เด็กคนนี้จะปั่นจักรยานไปโรงเรียนหรือใช้จักรยานทำอะไรในชีวิตประจำวันต้องใช้แล้วรู้สึกสะดวกสบายสำหรับชีวิต จะได้ไม่น้อยเนื้อต่ำใจว่าเป็นคนพิการ หากเขารู้สึกว่าเจ็บ ทำอะไรไม่สะดวก จะน้อยเนื้อต่ำใจว่าเกิดมาแล้วพิการและรู้สึกท้อแท้ นายสุริยันกล่าว
นายสุริยันกล่าวด้วยว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ รับสั่งว่านี่เป็นตัวอย่างของคนที่หัวใจเข้มแข็ง ไม่ยอมพ่ายแพ้ในโชคชะตา ถึงแม้โชคชะตาจะทำให้เราเกิดมาพิการ แต่หัวใจนั้นไม่พิการ เป็นหัวใจของสีธงชาติรักชาติรักแผ่นดิน พระองค์ท่านโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับสั่งให้กองกิจการในพระองค์ฯ นำรถจักรยานพระราชทานจากพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ไปมอบให้ พระองค์ทีทรงมีจักรยานพระที่นั่งส่วนพระองค์ 2 คัน คันหนึ่งอยู่ต่างประเทศอีกคันหนึ่งอยู่ที่ประเทศไทย พระองค์ท่านพระราชทานคันที่อยู่ประเทศไทยมาให้ 1 คัน
พระองค์ท่านรับสั่งว่าเด็กจะได้ภูมิใจว่าเป็นจักรยานพระราชทานของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงให้นำจักรยานคันดังกล่าวไปปรับปรุงดัดแปลงแก้ไขเพื่อให้เหมาะสำหรับคนพิการ สามารถใช้จักรยานคันนี้ได้ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ ขณะนี้ได้ให้กองกิจการในพระองค์ฯ ติดต่อประสานงานและลงไปในพื้นที่เพื่อสอบถามข้อมูลประวัติและความยากลำบากของน้องทาม เพื่อพระองค์ท่านจะพระราชทานการช่วยเหลือน้องทามต่อไป นายสุริยันกล่าว
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านพักเลขที่ 220/5 หมู่ 3 ต.หนองกุลา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก บ้านของน้องทาม ด.ช.วรรณธนะ คำอินทร์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดหนองนาดงกวาง เด็กชายผู้พิการไร้แขนตั้งแต่กำเนิดและนำรถจักรยานคู่ใจร่วมกิจกรรม Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่ จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ภายหลังจากน้องทามและครอบครัวทราบข่าวอันน่าปีติยินดีว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร รับสั่งให้ตามหาและจัดทำรถจักรยานสำหรับเด็กไร้แขนพระราชทานมาให้ นางดอกรัก คำอินทร์ มารดา และน้องทามต่างรู้สึกปีติยินดีและปลาบปลื้มเป็นอย่างมากที่พระองค์ท่านทรงมีเมตตากับน้องทาม โดยน้องทามก้มตัวลงเพื่อถวายความเคารพต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เพื่อแสดงความจงรักภักดี
นางดอกรัก คำอินทร์ มารดาน้องทาม เปิดเผยว่า รู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมากที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานรถจักรยานสำหรับเด็กไร้แขนมาให้น้องทาม ตนจะดูแลรถจักรยานพระราชทานคันนี้ และเลี้ยงลูกให้เติบโตเป็นคนดีของสังคม
ด้านน้องทามเผยความรู้สึกว่า รู้สึกดีใจมากที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ จะพระราชทานรถจักรยานคันใหม่มาให้ ผมจะดูแลรักษาเป็นอย่างดี และใช้ให้เกิดประโยชน์ในการเรียนให้มากที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้น้องทามจะไร้แขนทั้ง 2 ข้าง แต่สามารถปั่นจักรยานเหมือนเด็กทั่วไปได้ตามปกติ โดยใช้กล้ามเนื้อส่วนหน้าอกช่วยบังคับรถเลี้ยวซ้าย-ขวา และใช้ใต้คางแทนมือประคองแฮนด์รถไว้ ส่วนการเบรกรถนั้นใช้รองเท้าแตะลากไปกับพื้นดินเพื่อชะลอความเร็วและหยุดรถ แม้น้องทามจะพิการไร้แขนแต่ไม่ได้มีอุปสรรคในการดำเนินชีวิตแต่อย่างใด โดยน้องทามจะปั่นจักรยานไปกลับบ้านและโรงเรียนเป็นประจำทุกวันในระยะทางไปกลับประมาณ 600 เมตร นอกจากนี้ ยังมีความสามารถพิเศษใช้เท้าวาดภาพและระบายสีได้อย่างสวยงาม โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดจะตั้งใจฝึกซ้อมวาดภาพเพื่อร่วมการแข่งขันระดับต่างๆ ที่ผ่านมามีผลงานส่งเข้าประกวดและได้รับรางวัลระดับจังหวัดและระดับเขตมาแล้ว ล่าสุดน้องทามวาดภาพตนเองปั่นจักรยานโดยมีธงชาติไทยติดอยู่หลังรถในกิจกรรม Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่ ด้วยลายเส้นที่สวยงาม
เรื่องและภาพจาก ข่าวสด
