สาเหตุหลัก คือ การออกแรงมากกว่าปกติที่เคย แล้วคงความหนักนี้ไว้ เอาแบบง่ายๆก็ปั่นเร็วเกินกว่ามาตราฐานตัวเองนั่นเอง

การจุดเสียดของมีความสัมพันธ์กับความเร็ว พูดง่ายๆก็คือ จุดเสียดเพราะปั่นเร็ว และถ้าปั่นให้ช้าลง ความเสียดจะลดน้อยลงและถ้าหยุดปั่นได้ อาการเสียดก็จะหายไปเลย

อาการนี้สามารถเกิดได้แม้ว่านักปั่นคนนั่นจะฝึกมาดี แต่ถ้าปั่นเกินมาตราฐานตัวเองก็อาจเกิดได้ แต่ไม่ทุกคนนะ บางคนก็เป็น เท่าที่น้าเคยดูรายการ(จำชื่อไม่ได้) มีโอกาสเป็น เพียง 1/3 ซึ่ง 1 ในนั้นรวมน้าด้วยที่เคยเป็นอยู่หลายครั้ง แม้ในขณะช่วงที่ร่างกายฟิต

วิธีแก้ไข 

ให้ผ่อนความเร็วลง จนเมื่ออาการกลับค่อยยังชั่วแล้ว (ไม่ใช่หาย) ก็ให้คืนความเร็วเหมือนเดิม แต่มันก็อาจกลับมาจุกเสียดอีก ย่อมมีความเป็นไปได้มาก ก็ให้เราพยายามฝืนต่อไปทั้งๆที่ยังเสียดนั้น จนกระทั่งทนอีกไม่ไหวก็ให้ผ่อนความเร็วลงมาเหมือนเดิม จนกระทั่งมันบรรเทาลงก็ให้เพิ่มความเร็วให้กลับเข้าที่อีกที ทำอย่างนี้สลับไปมา มันจะเท่ากับเป็นการสอนให้ ร่างกายเคยชิน และสามารถรับมือกับภาวะจุกเสียดนั้นดีขึ้น

การฝึกเช่นนี้ แม้อาการจะไม่หายไปในระยะเวลาการฝึกครั้งเดียวหรือแม้แต่หลายครั้ง แต่ร่างกายจะค่อยๆปรับตัวให้ภาวะนี้ห่างออกไปและออกไปเรื่อยๆตราบเท่าที่ร่างกายเราแข็งแกร่งขึ้นทีละน้อยนั่นเอง

วิธีป้องกัน 

คือพยายามฝึกหายใจด้วยช่องท้องด้วยการกำหนดเองอย่า ปล่อยให้ธรรมชาติกำหนดด้วยการนอนหงายและใช้หนังสือเล่มใหญ่หนักๆ วางบนช่องท้อง ณ ตำแหน่งที่มักรู้สึกเสียดเป็นประจำ และพยายามยกหนังสือขึ้นด้วยการหายใจเข้า และผ่อนหนังสือลงด้วยการหายใจออก ทำช้าๆ ยาวๆ 
เหตุผลกระทำเช่นนี้ว่าเท่ากับเป็นการฝึกความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อช่องท้อง ซึ่งเมื่อมันแข็งแกร่งขึ้นก็เท่ากับเป็นการช่วยให้อวัยวะในระบบทางเดินหายใจแข็งแรงยิ่งขึ้น โอกาสเกิดจะยาก

และอีกประการหนึ่ง ให้ลองฝึกการกินอาหารและน้ำดื่มให้เหมาะสมด้วยเสียก่อนปั่น ไม่ใช่ยัดไปเสียแน่นท้องแบบสำรองอาหาร แล้วออกปั่น อย่างนี้ยังไงๆก็เอาไม่อยู่หรอกครับ
*ที่จริงมันอาจเป็นอาการที่เรียกกันว่า “ ไส้แตก” อย่างหนึ่งนั่นเอง 5555
____เป้ มหาชัย 28/7/2019 
#100RpmRoom