- หน้าแรก
- บทความ สาระ
- วิธีการเลือกซื้อหมวกจักรยาน และ การสวมใส่หมวกกันน็อคที่ถูกต้อง
วิธีการเลือกซื้อหมวกจักรยาน และ การสวมใส่หมวกกันน็อคที่ถูกต้อง
อุปกรณ์ที่จำเป็นมากอย่างหนึ่งในการขี่จักรยานของเราที่หลายคนไม่อาจจะมองข้ามไปได้ นั่นก็คือเรื่องของหมวกกันน็อคจักรยาน
จากข้อมูลสถิติของ Bicycle Helmet Safety Institute พบว่าอุบัติเหตุทางจักรยานที่เกิดขึ้น หมวกกันน็อคจักรยานสามารถป้องกันอันตรายศรีษะได้มากถึง 88%
เท่าที่ผมมองดูคนขี่จักรยานตามท้องถนนในบ้านเรา ไม่นับพวกจักรยาน แม่บ้าน จักรยาน อาแปะ ทั้งหลาย ดูแล้วก็น่าชื่นใจหน่อยตรงที่ คนขี่จักรยานส่วนใหญ่ตามท้องถนนมักจะสวมใส่หมวกจักรยานกันเป็นส่วนมาก ซึ่งจะต่างจากคนขี่มอเตอร์ไซด์ที่เจออยู่บ่อยๆ ที่ไม่ค่อยใส่หมวกกันน็อคกันเท่าไร
ให้ผมเดานะ ผมเดาว่าหมวกกันน็อคสำหรับคนขี่จักรยานมันเหมือนเครื่องแต่งกายอย่างหนึ่งใส่แล้วมันก็ทำให้ดูดีและยังป้องกันอันตรายได้อีกด้วย และหมวกกันน็อคจักรยานส่วนใหญ่เป็นหมวกแบบเปิด ไม่ใช่หมวกกันน็อคแบบมอเตอร์ไซด์ที่ส่วนใหญ่เป็นหมวกแบบปิดทำให้ร้อนและหนักเวลาขี่ นับว่าเป็นข้อดีของหมวกกันน็อคจักรยานทุกวันนี้ที่มีทั้งรูระบายอากาศ และน้ำหนักที่พัฒนาแข่งขันกันจนเบาลงเรื่อยๆ
เอาหละเรามารู้จักหมวกกันน็อคสำหรับจักรยานให้ละเอียดกันหน่อยดีกว่าว่าเราจะเลือกมันอย่างไรดีครับ
หมวกกันน็อคส่วนใหญ่ในท้องตลอดเวลานี้เรียกได้ว่าเกือบทั้งตลาดมันผลิตมาจาก โฟมแบบ พอลิสไตรีน( polystyrene foam ) หรือโฟมที่เรามักจะพบเห็นกันในตามพวก กระติกน้ำแข็ง ซึ่งจะเป็นโฟมเนื้อแน่นไม่ยุ่ยง่าย กันน้ำได้ดี โฟมพวกนี้ทำหน้าที่เป็นตัวซับแรงกระแทกของศรีษะของเรา เวลาเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งหมวกกันน็อคของมอเตอร์ไซด์ส่วนใหญ่ก็ทำมาจาก โฟมแบบ พอลิสไตรีน เช่นกัน คุณสมบัติของโฟมพวกนี้มันแข็งและมีความเหนียวอยู่บ้าง แต่เมื่อเกิดการกระแทกมันก็จะแตกหักได้ทันที ดังนั้น เมื่อหมวกของเราเกิดอุบัติเหตุจนำทำให้เนื้อโฟมภายในได้รับความเสียหาย เช่นเกิดรอยแยกรอยปริ แนะนำว่าอย่าเสียดายครับ ซื้อใหม่เถอะครับ เพราะเมื่อมันแตกแล้วหรือเกิดรอยแยกแล้วนั้นหมายถึงประสิทธิภาพของการป้องกันศรีษะเรามันไม่เหลือแล้ว
หมวกกันน็อคในท้องตลาดเวลานี้มันมีตั้งแต่ใบหลักร้อยยันไปหลักหลายพันบาทจนเกือบหมื่นบาท ซึ่งแน่นอนว่ามันทำให้เกิดคำถามคาใจว่าหมวกแพงหมวกถูกมันแตกต่างกันอย่างไร อะไรทำให้มันแพง ผมขอแยกเป็นเรื่องๆก่อนละกัน
- หมวกที่มีราคาแพงส่วนใหญ่การผลิตจะเป็นเนื้อโฟมแบบ พอลิสไตรีน ที่เคลือบพลาสติกกันรอยขูดขีดภายนอกเหมือนเป็นเกราะเคลือบไปกับเนื้อโฟมเลย ส่วนหมวกราคาถูกส่วนใหญ่จะเป็นงานแบบแยกชิ้นระหว่างพลาสติกภายนอกกับตัวเนื้อโฟมแล้วทากาวยึดกันไว้ ซึ่งนานวันเข้าและอากาศเปลี่ยนแปลงย่อมมีโอกาสทำให้วัสดุทั้งสองชิ้นนี้แยกออกจากกัน
- หมวกที่มีราคาแพงส่วนใหญ่จะใช้เรื่องของน้ำหนักหมวกเป็นจุดขายและจะมีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบามากกว่าแบบสังเกตได้ การออกแบบมีความพิถีพิถันมากกว่า ทั้งในเรื่องฟองน้ำที่ซับภายในเน้นให้คนใส่สวมใส่ได้สบายมากขึ้น
- หมวกกันน๊อคไม่ว่าจะเป็นหมวกของจักรยานหรือ มอเตอร์ไซด์ เราก็ต้องมีมาตราฐานรับรองการผลิตกันเป็นส่วนใหญ่ ถ้าหมวกกันน๊อคมอเตอร์ไซด์เอาแบบหมวกบ้านๆ ก็ต้องมี ม.อ.ก รับรอง หรือเมืองนอกก็มี เช่น มาตราฐาน DOT รับรอง แต่สำหรับหมวกจักรยานเอง ในต่างประเทศเค้าก็มีการแบ่งมาตราฐานการรับรองออกเป็นหลายโซนตามประเทศครับ
ทางอเมริกา หากหมวกกันน็อคจักรยานที่ได้มาตราฐานความปลอดภัยจะต้องรับรองโดย CPSC (Consumer Product Safety Commission)
ทาง ยุโรปก็ต้องมี CE sticker
ทาง ออสเตเรีย ก็ต้องมี AS/NZS
4.หมวกกันน็อคที่มีราคาสูงมักจะมีการออกแบบเรื่องการไหลผ่านของอากาศที่ดีกว่า โดยมีรูระบายอากาศที่ดี มีการคำนวนการออกแบบการไหลของอากาศแน่นอนว่าการระบายอากาศที่ดีย่อมทำให้หมวกไม่อับชื้น และสวมใส่ได้ไม่ร้อนสบายมากยิ่งขึ้น อากาศสามารถไหลผ่านไปยังหนังศรีษะได้ง่าย แม้ว่าจะมีรูที่มากแต่ก็ไม่กระทบต่อโครงสร้างหมวกทำให้ประสิทธิภาพการป้องกันลดลง และหมวกสำหรับเสือภูเขาส่วนใหญ่ก็จะมีรูระบายที่ใหญ่กว่าหมวกพวกเสือหมอบเพราะความเร็วในการขี่น้อยกว่าลมไหลผ่านได้น้อยกว่าด้วย
5.ขนาดของหมวก จากการเดินสำรวจตลาดในบ้านเราพบว่าหมวกกันน๊อคราคาไม่แพงส่วนใหญ่ จะมาแบบขนาดเดียวเลยครับ ใช้หมุนปรับด้านหลังเอาเอง ซึ่งโอกาสความกระชับก็คงจะน้อยกว่า หมวกที่มีไซด์ให้เลือกซึ่งจะสวมใส่ได้พอดีมากกว่า ในการเลือกหมวกกันน็อคที่ถูกต้องควรจะวัดรอบหัวบริเวณหน้าผากล่างลงมานิดหน่อย บริเวณช่วงเหนือคิ้วขึ้นมา ว่ามีขนาดเท่าไร แล้วค่อยเลือกขนาดหมวกในอยู่ในขนาดที่ใกล้เคียงกับหัวเราแล้วค่อยใช้การหมุนปรับช่วยอีกครั้งหนึ่ง
6. ในหมวกที่มีราคาแพง วัสดุสายรัดและตัวล็อคคางจะดีกว่า สายรัดคือจุดสำคัญจุดหลักหากตัวล็อคเกิดหลุดง่ายหรือหักง่ายขณะเกิดอุบัติเหตุ แม้ว่าตัวหมวกจะดีแค่ไหนเมื่อสายรัดคางเกิดหลุดขึ้นมาก็คงไม่สามารถช่วยป้องกันศรีษะของเราได้
7.หมวกที่มีราคาแพงนอกจากจะมีการออกแบบที่ดูสวย วัสดุที่ใช้ดูดีกว่า เรื่องของอะไหล่ก็มักจะมีรองรับกรณีเกิดชำรุดเสียหาย แต่เรื่องอะไหล่บางยี่ห้อก็แพงไม่ใช่เล่นเหมือนกัน ผมเคยซื้อหมวกยี่ห้อดัง R….. ปรากฎว่าใช้ไปนานๆตัวหมุนปรับเกิดชำรุด ก็สบายใจที่ศูนย์บริการมีอะไหล่ แต่ราคาก็เอาเรื่องประมาณหนึ่งใน สี่ของค่าหมวกเลยทีเดียว ก็ถือว่ายังโชคดี ดีกว่าโยนทิ้งทั้งใบ
หมวกแพงและหมวกถูกปลอดภัยต่างกันใหม?
พูดกันแบบตรงๆเลยนะครับ หมวกแพงหมวกถูกประสิทธิภาพในเรื่องความปลอดภัยไม่ต่างกันมาก จากข้อมูลการทดสอบของ bhsi.org ในการทดสอบมาตราฐานหมวกกันน็อคจักรยานตามมาตราฐาน CPSC-approved โดยการทดสอบจากการกระแทกพบว่าประสิทธิภาพในการป้องกันมันแตกต่างกันไม่มากเท่าไรระหว่างหมวกแพงกับหมวกถูก ส่วนใหญ่แพงถูกต่างกันที่ยี่ห้อ การออกแบบ น้ำหนัก และเรื่องการระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพที่แตกต่างกันชัดพอสมควร
การสวมใส่หมวกกันน็อคที่ถูกต้อง
ลองยืนหน้ากระจกแล้วสวมหมวกดูเลยครับ เวลาครอบสวมแล้วหมวกจะต้องลงมาพอดีกับบริเวณหัวของเรา อาจจะหลวมได้นิดหน่อยแล้วค่อยใช้วิธีการปรับหมุนด้านหลังเอา หลังจากนั้นลองเลื่อปรับสายรัดคางดูกันต่อ เวลาสวมใส่สายรัดแล้วจะต้องพอดี ไม่ถึงกับอึดอัด บริเวณใต้คางพอทีจะเอานิ้วสอดเข้าไปได้นิดหน่อย ลองขยับหมวกไปด้านหลัง หมวกต้องไม่สามารถเขยิบได้เกิน หนึ่งนิ้ว ถ้าเกินแสดงว่าหลวมไปให้ปรับสายรัดใหม่
การซื้อหมวกที่ถูกต้องนั้น ควรซื้อหมวกที่ฟิตพอดีกับหัวเรา เรื่องของหมวกไม่ควรใช้งานร่วมกัน ของใครของมันไม่ต้องซื้อเผื่อโต หรือเผื่อสมาชิกในบ้านเพราะหมวกที่ดีมันต้องฟิตกับหัวเรา พอดีเป๊ะไม่ถึงกับรัดติ้วแต่ก็ไม่หลวมจนเกินไป สิ่งที่ผมให้ความสำคัญในการซื้อหมวกทุกครั้งก็คือเรื่องตัวสาดรัดคางต้องมีคุณภาพดี ตัวล็อคต้องแน่นหนาเพราะถ้าเกิดการกระแทกแล้วสายรัดเอาไม่อยู่ อันตรายมาเยือนแน่นอนครับ
การดูแลหมวกกันน็อคจักรยาน
การดูแลจริงๆแล้วก็ไม่มีอะไรมากครับเพียงแต่ไม่ควรละเลย สิ่งสำคัญที่เราควรจะต้องดูแลก็คือคอยหมั่นสำรวจหมวกที่เราใช้งานว่ามีรอยแยกหรือรอยปริใดๆหรือไม่ เพราะแม้บางครั้งเราไม่ได้เกิดอุบัติเหตุก็ตาม แต่บางครั้งเราก็มักจะทำหมวกหล่นพื้นหรือกระแทกหมวกเวลาพิงรถซึ่งก็อาจจะทำให้เกิดความเสียหายทีละนิดโดยที่เราไม่รู้ตัว
สิ่งที่ตามมาก็คือเรื่อง สุขอนามัยของหมวก หมวกบางยี่ห้อสามารถถอดแผ่นรองที่เป็นฟองน้ำออกมาซักทำความสะอาดได้ แต่หมวกถูกๆบางยี่ห้อไม่สามารถถอดแผ่นฟองน้ำออกมาได้ เมื่อใช้ไปนานๆย่อมทำให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรก เกิดเชื่อโรคต่างๆ ได้ ซึ่งในปัจจุบันจะมีน้ำยาทำความสะอาดและฆ่าเชื้อออกมาขายสำหรับหมวกจักรยานโดยเฉพาะ เช่นของยี่ห้อ Muc Off หรือจะใช้ของพวกหมวกกันน็อคมอเตอร์ไซด์ก็ได้เช่นกัน ผมก็ใช้ของมอเตอร์ไซด์เหมือนกัน พวกยี่ห้อ Motul ก็ใช้ดีครับ หอมดีด้วย แต่หากว่ามันแพงมากก็ลองเดินดูตามซุปเปอร์มาเก็ต หรือร้านขายยาก็มีน้ำยาฆ่าเชื่อแบบน้ำเช่นกัน แต่หากใช้น้ำยาทั่วไปต้องระวังเรื่องการกัดกร่อนหน่อยนะครับ เดี๋ยวจะทำให้หมวกเสียหายง่าย หรืออีกวิธีที่ผมใช้ประจำ ก็คือสวมผ้า บัฟ ใส่หัวไว้ก่อนก็จะช่วยเรื่องความสะอาดได้มากทีเดียว